วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

พุทธชาดก

วันอังคาร ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2551
Posted by dhanawatana , ผู้อ่าน : 4950 , 16:44:24 น.  
หมวด : Blog Kids

พิมพ์หน้านี้
โหวต 0 คน

วัวดำยอดกตัญญู

พุทธชาดก ความกตัญญูของวัวดำ

----------------------------------------------------------------------


ที่เมืองพาราณสี แคว้นกาสี ในรัชกาลของพระเจ้าพรหมทัต มีวัวดำตัวหนึ่งถูกเจ้าของทอดทิ้ง

ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นวัวดำ ส่วนพระอุบลวรรณาเถรีเกิดเป็นหญิงแก่ผู้รับเลี้ยงวัวดำ

 

วัวดำนั้นมีสีดำปลอดมาตั้งแต่เกิด พอโตเป็นวัวหนุ่ม เจ้าของกลัวว่าจะไม่เป็นมงคล จึงจูงไปมอบให้หญิงแก่คนหนึ่งช่วยเลี้ยงดู นางเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เพราะเหตุที่นางรักวัวดำนั้นมากนั่นเอง คนเลยเรียกวัวดำนั้นว่า อัยยิกากาฬก แปลว่า เจ้าดำของคุณยาย

 

วัวดำนั้นยิ่งโต ยิ่งมีสีดำเข้ม ออกไปหากินกับวัวของชาวบ้านอยู่ทุกวัน และได้ยกย่องจากพวกวัวด้วยกันให้เป็นจ่าฝูงนำพวกตนออกหากิน

อย่าแตกฝูงไปไกลนะพวกเรา เดี๋ยวจะเป็นอันตราย วัวดำจะบอกเพื่อนวัวด้วยกันเสมอๆ ก่อนออกหากิน ในป่าทึบนั้นมักมีสัตว์ป่าดุร้ายอย่างเสือและราชสีห์อาศัยอยู่ สัตว์พวกนี้จะคอยกินพวกเราเป็นอาหาร ขอให้ระวังตัวไว้ด้วย


นอกจากมีความรักต่อบรรดาเพื่อนวัวด้วยกันแล้ว วัวดำยังมีความรักต่อบรรดาเด็กเล็กๆลูกชาวบ้านด้วย พวกเด็กเองก็รักวัวดำด้วยเช่นกัน เวลาที่วัวดำมาเดินเล่นอยู่ในหมู่บ้าน พวกเด็กๆก็จะพากันมารุมล้อมและเล่นกับวัวดำ บ้างก็จับเขาโหน บ้างก็จับหูดึง บ้างก็จับคอโหน บ้างก็จับหางดึง บ้างก็ขึ้นขี่หลัง วัวดำเองก็จะเล่นกับเด็กพวกนั้นอย่างสนุกสนานเหมือนกับว่าเป็นคนหรือวัวด้วยกัน


วัวดำเป็นวัวยอดกตัญญู ยายที่เลี้ยงดูเขาเป็นคนยากจน เขาเห็นยายเป็นอยู่อย่างลำบากแล้วให้รู้สึกสงสาร และยิ่งเห็นยายรักเขาจริง เลี้ยงดูเป็นอย่างดีก็ยิ่งคิดถึงพระคุณของยายมากยิ่งขึ้น และคิดหาทางตอบแทนอยู่ตลอดเวลา  แม่ของเรายากจน แต่ก็สู้อุตส่าห์เลี้ยงเรามาเหมือนลูก เราควรจะรับจ้างหารายได้มาช่วยเหลือแม่ให้พ้นจากความยากจนให้ได้ 


ตั้งแต่นั้นมา วัวดำออกหากินหรือเดินผ่านไปทางไหนก็จะคอยดูงานจ้างไปด้วย ซึ่งก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ถึงได้มาก็มีรายได้เพียงนิดหน่อย ยังไม่พอถึงขั้นที่จะช่วยให้หญิงแก่พ้นจากความยากจนไปได้

 

วัวดำยังหางานจ้างไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งก็ได้งานใหญ่ ค่าจ้างแพง เพราะเกวียน ๕๐๐ เล่ม บรรทุกสินค้าเต็มมาติดหล่มอยู่ใกล้ๆหมู่บ้าน หัวหน้ากองเกวียนซึ่งเป็นชายหนุ่มลูกชายเจ้าของกองเกวียน สั่งการให้บริวารพยายามหาทางเอาเกวียนขึ้นจากหล่มให้ได้

 

เอ้า...พวกเรา ช่วยกันหน่อย เขาสั่งการอย่างแข็งขัน

ช่วยแล้วเจ้านาย แต่ว่าวัวของเราแรงไม่พอที่จะลากเกวียนขึ้นมาได้ บริวารร้องบอก หล่มมันลึกมาก อีกทั้งเกวียนก็หนัก มีสินค้าอยู่เต็ม

แล้วจะทำอย่างไรกันดี หัวหน้ากองเกวียนถามอย่างท้อแท้

ถ่ายสินค้าลงก่อน บริวารคนหนึ่งเสนอ

เป็นความคิดที่ดี หัวหน้ากองเกวียนพยักหน้ารับ แต่ว่ามันจะช้ากันใหญ่ เอาไว้เป็นวิธีสุดท้ายก็แล้วกัน ลองหาวิธีอื่นดูก่อน 

 

พวกบริวารต่างช่วยกันคิดหาวิธีลากเกวียนขึ้นจากหล่มด้วยวิธีต่างๆ นับตั้งแต่ตัดกิ่งไม้ใส่ลงไปในหล่มและเปลี่ยนวัวลากเกวียน ผลก็คือ เกวียนยังติดหล่มลึกอยู่เหมือนเดิม


ตะวันเริ่มร้อนแรงขึ้นทุกขณะ ทุกคนเริ่มท้อแท้

ขณะนั้นเอง วัวดำกับบรรดาเพื่อนวัวเริ่มออกหากิน หัวหน้ากองเกวียนเห็นวัวดำแล้วเกิดความหวังขึ้นมาทันที

 

วัวตัวนี้ร่างกายใหญ่โต ดูท่าจะแข็งแรงพอที่จะลากเกวียนขึ้นมาจากหล่มได้ เขาคิดพร้อมกับร้องถามเด็กเลี้ยงวัว เฮ้ย...ไอ้หนู วัวตัวนี้ของใครวะ 

ของยายในหมู่บ้าน พวกเด็กตอบ ถามทำไมล่ะ น้า 

เกวียนข้าทั้งหมดนี้ติดหล่ม หัวหน้ากองเกวียนตอบ

อยากได้วัวแรงดีมาช่วยลาก ข้าเห็นวัวตัวนี้แข็งแรงดีเลยถามหาเจ้าของ เพื่อว่าจะจ้างมาช่วยลาก 

เอาเลยนาย เอามันไปใช้ได้ ตอนนี้มันไม่มีเจ้าของหรอก พวกเด็กร้องบอกหัวหน้ากองเกวียนด้วยความหวังดี

 

ฝ่ายวัวดำได้ยินเรื่องที่หัวหน้ากองเกวียนกับพวกเด็กเลี้ยงวัวพูดกันตลอด และรู้สึกดีใจที่ได้ยินหัวหน้ากองเกวียนบอกว่าจ้าง

 

แม่จ๋า... เขาคิด คราวนี้แม่คงไม่จนต่อไปอีกแล้ว ลูกจะได้ลากเกวียนตั้งห้าร้อยเล่ม ค่าจ้างครั้งนี้คงจะงามทีเดียว

 

หัวหน้ากองเกวียน ครั้นได้ยินพวกเด็กร้องบอกเช่นนั้นก็ดีใจ รีบเดินเอาเชือกมาสนตะพายวัวดำแล้วจูง ด้วยหมายจะให้มาลากเกวียน แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะวัวดำไม่ยอมขยับเท้าก้าวเลยแม้แต่น้อย

 

ถ้าไม่ได้ตกลงเรื่องค่าจ้าง เราก็ไม่ไป วัวดำยืนคิดนิ่งอยู่ในใจ

 

หัวหน้ากองเกวียนทราบความต้องการของวัวดำเป็นอย่างดี จึงเข้าไปใกล้ๆ แล้วบอกว่า เจ้าวัวดำ ขอให้เจ้าช่วยข้าหน่อยเถอะ ช่วยลากเกวียน ๕๐๐ เล่มขึ้นจากหล่ม แล้วข้าจะให้ค่าจ้างเล่มละสองกหาปณะ รวมทั้งหมดก็หนึ่งพันกหาปณะ 


วัวดำพอใจมากต่อราคาที่หัวหน้ากองเกวียนเสนอ ดังนั้น เขาจึงตอบตกลงและเดินไปที่เกวียนเล่มแรกทันที พวกบริวารของนายเกวียนก็จับเทียมเกวียนเล่มแรก จากนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของวัวดำลาก แล้วชั่วอึดใจเดียว วัวดำก็ลากเกวียนเล่มแรกนั้น ขึ้นมาจากหล่มได้สำเร็จ หัวหน้ากองเกวียนและบริวารต่างดีใจมาก

 

วัวดำลากเกวียนขึ้นจากหล่มได้ตามลำดับ แม้จะเหน็ดเหนื่อยบ้างแต่ก็ไม่อ่อนล้า เพราะมีความหวังอยู่ที่ค่าจ้าง ๑,๐๐๐ กหาปณะ ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยให้แม่พ้นจากความยากจนได้ วัวดำลากเกวียนไปเรื่อยๆ ท่ามกลางพ่อค้าเกวียนที่มองดูด้วยความชื่นชม จนกระทั่งสามารถลากได้หมดทั้ง ๕๐๐ เล่ม

 

หัวหน้ากองเกวียนรีบนับเงินแล้วห่อเป็นมัดไปคล้องคอวัวดำ แต่แทนที่วัวดำจะออกเดินทางไปบ้านหรือออกหากินต่อ เขากลับไปยืนขวางหน้ากองเกวียนของหัวหน้ากองเกวียนไว้ ทำให้ไม่สามารถออกเดินทางได้


เหตุที่วัวดำไปยืนขวางทางเช่นนั้นก็เพราะรู้ว่าหัวหน้ากองเกวียนให้ค่าจ้างไม่ครบตามที่ตกลงไว้ตอนแรก คือ ตกลงไว้ ๑,๐๐๐ กหาปณะ แต่ให้จริงเพียงแค่ ๕๐๐ กหาปณะ ฝ่ายหัวหน้ากองเกวียนก็เข้าใจได้ดีถึงกิริยาอาการของวัวดำ จึงยอมให้เพิ่มอีก ๕๐๐ กหาปณะ รวมเป็นเงิน ๑,๐๐๐ กหาปณะ


ครั้นได้ค่าจ้างครบแล้ว วัวดำก็หลีกทางให้เกวียนของนายกองเกวียนไปได้ แล้วตนเองก็รีบนำห่อกหาปณะ (ห่อเงิน) กลับมาให้หญิงแก่ผู้เป็นเสมือนแม่ของตนที่กระท่อมในหมู่บ้าน หญิงแก่ดีใจมากที่ได้เห็นเงินจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกสงสารวัวดำที่มาทำงานหนักเพื่อตน

 

ยาย... เจ้าดำมันเก่งมาก มันรับจ้างลากเกวียนขึ้นจากหล่มตั้ง ๕๐๐ เล่มเกวียน พอได้ค่าจ้างมันก็รีบนำมาให้ยายเลย มันดีนะเจ้านี่


หญิงแก่น้ำตาไหลพรากทันทีที่ได้ยินพวกเด็กเล่าเรื่องราวของวัวดำให้ฟัง นางเดินไปลูบหัวนายดำซึ่งบัดนี้นอนอยู่ใกล้ๆ เพราะความอ่อนเพลีย นางจึงเอาน้ำอุ่นมาลูบตัวและทาน้ำมันให้บรรเทาความปวดเมื่อย จากนั้นก็หาน้ำ หญ้าที่มีรสอร่อยมาให้วัวดำกิน

 

วัวดำกับหญิงแก่อยู่ด้วยกันจนถึงวันตายอย่างมีความสุข เพราะเงิน ๑,๐๐๐ กหาปณะที่วัวดำหามาให้นั้นมากพอที่จะเลี้ยงดูกันไปได้ตลอดชีวิต

 

 

นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความกตัญญู เป็นคุณธรรมสำคัญที่ทำให้คนเข้มแข็งและอดทน เหมือนวัวดำมีความกตัญญูต่อหญิงแก่ แล้วยอมทำงานหนักเพื่อตอบแทนพระคุณของนางฉะนั้น




http://www.oknation.net/blog/MyTale/2008/02/26/entry-1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น